阿摩線上測驗
登入
首頁
>
駕照◆機車法規(泰文)
> 113年 - NTM-00543機車法規選擇題-泰文เวอร์ชั่นไทย(113/07/19)351-400#123249
113年 - NTM-00543機車法規選擇題-泰文เวอร์ชั่นไทย(113/07/19)351-400#123249
科目:
駕照◆機車法規(泰文) |
年份:
113年 |
選擇題數:
50 |
申論題數:
0
試卷資訊
所屬科目:
駕照◆機車法規(泰文)
選擇題 (50)
351 ขอ้ใดตอ่ ไปนีจ้ า เป็นตอ้งใหค้ วามชว่ ยเหลอืดว้ยวธิกี ารกระแทกทอ้งใตล้ิน้ ปี ่? (A)ผู้ป่วยเป็ นลมหมดสติ (B)เมือ่ สงสยั วา่ ทางเดนิ หายใจอดุ ตนั (C)เมือ่ สงสยั วา่ กลา้มเนือ้ หวัใจตาย
352 เมือ่ เกดิ อบุ ตั เิหตทุ างรถยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บทีม่ เีลอืดออกเป็นจา นวนมาก วธิกี ารปฐมพยาบาลวธิกี ารใดเป็นวธิที ีผ่ ดิ ? (A)ตรวจหาตา แหน่งที ่ เลอืดออก ตดั เสือ้ ผา้ออก แล้วกดห้ามเลือด (B)ห้ามเลือดด้วยสายรัดห้ามเลือด และคลายสายรัดห้ามเลือด 1 ครั ้งทกุ 15-20 นาที (C)วางแขนหรอืขาทีม่ เีลอืดออกใหม้ อี ยใู่ นตา แหน่งทีต่ ่ากวา่ หวัใจ ทา เชน่ นีจ้ ะชว่ ยใหเ้ลอืดไม่ออกมากเกนิไป
353 ปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR ต้องปฏิบัติการทันทีหลังจากหัวใจหยุดเต้นนานเท่าไร เพือ่ ป้องกนั ความเสยีหายของสมองที ่ไม่สามารถรกั ษาใหก้ ลบั มาเป็นปกตไิด? ้ (A)ภายใน 10-15 นาที(B)ภายใน 8-10 นาที(C)ภายใน 4-6 นาที
354 เมือ่ ทา การปฐมพยาบาลดว้ยวธิกี ารกระแทกทอ้งใตล้ิน้ ปี ่ ใหก้ มุ มอืทั ้งสองขา้งไวท้ีอ่ วยั วะสว่ นใดของผูป้่วย? (A)ด้านซ ้ายของสะดือ (B)ด้านล่างของสะดือ (C)ตรงกลางระหว่างสะดือและกระดูกหน้าอก
355 สิ ่งแรกทีค่ วรทา ในการปฐมพยาบาลคอือะไร? (A)จัดวางต าแหน่งศีรษะให้ตรง (B)สะกิดเรียกผู้ป่วยเบา พร ้อมประเมินผลการรับรู ้ของผู้ป่วย (C)ฟังเสียงหายใจ
356 การปฐมพยาบาลสา หรบั ผูท้ ี ่ไดร้บั บาดเจ็บจากสารเคมคี อืขอ้ใด? (A)ใชน้ ้าลา้งแผลบรเิวณทีบ่ าดเจ็บ (B)หาสารทีท่ า ใหม้ฤี ทธิ ์ เป็นกลาง (C)ถอดเสือ้ ผา้ออก
357หากขาได้รับบาดเจ็บภายนอกมีเลือดออก ขอ้ใดตอ่ ไปนี ้ เป็นการปฐมพยาบาลที ่ เหมาะสม? (A)ห้ามไม่ให้ใช ้สายรัดห้ามเลือด เพือ่ ป้องกนั ไม่ใหก้ ลา้มเนือ้ ของขาที ่ไดร้บั บาดเจ็บตาย (B)ควรออกแรงกดห้ามเลือดบริเวณบาดแผล (C)หลกีเลีย่ งการยกขาที ่ไดร้บั บาดเจ็บใหส้งูขึน้
358 ตามหลักปฐมพยาบาล ล าดับในการตัดสินใจปฐมพยาบาลคือ: A ห้ามเลือด B ช่วยให้หายใจสะดวก C ดามกระดกู ทีห่ กั (A)A→B→C (B)B→C→A (C)B→A→C
359 คา อธบิ ายเกีย่ วกบั การไดร้บัพษิ จากกา๊ซคารบ์อนมอนนอกไซดข์อ้ใดตอ่ ไปนี ้ไม่ถกู ตอ้ง? (A)แกส๊รั ่ว ควนั ไอเสยีจากเครือ่ งยนตข์องรถยนตเ์ป็นสาเหตหุ นึ ่งทีท่ าใหไ้ดร้บัพษิ จากกา๊ซคารบ์อนมอนน อกไซด์ได้ (B)ผวิของผูป้่วยจะมสีดี า คล ้า (C)เมือ่ ไดร้บัพษิ จากกา๊ซคารบ์อนมอนนอกไซด์ ตอ้งรบียา้ยผูป้่วยออกจากสถานทีท่ ี ่ เป็นอนั ตรายทนั ที พรอ้มใหส้ดู ดมออกซเิจนทีม่ คี วามเขม้ขน้ 100%
360 วิธีสังเกตว่าผู้ป่วยหายใจหรือไม่ในระหว่างการท า CPR (การชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หวัใจและปอด) ไม่รวมวธิใีดตอ่ ไปนี ้? (A) ดวู า่ หนา้อกมกี ารเคลือ่ นตวัหรอืไม่ (B) รสู้กึถงึลมหายใจทีอ่ อกมาหรอืไม่ (C) สมั ผสั วา่ มชี พี จรทีค่ อหรอืไม่
361 หากผู้ป่วยมีอาการกระดูกหัก การปฐมพยาบาลขอ้ใดตอ่ ไปนี ้ เป็นการที ่ไม่เหมาะสม? (A)เคลือ่ นยา้ยผูป้่วยในบรเิวณทีก่ ระดกู หกั จดั ใหอ้ยใู่ นท่านอนทีผ่ ูป้่วยรสู้กึสบาย (B)ต้องปฐมพยาบาลภาวะเลือดออกและอาการช็อคเสียก่อน จากนั ้นคอ่ ยใชแ้ผ่นไมก้ ระดานดามบรเิวณทีก่ ระดกู หกั (C)ไม่เคลือ่ นยา้ยผูป้่วยในบรเิวณทีก่ ระดกู หกั สง่ เดช
362 วิธีการปฐมพยาบาลบาดแผลทั ่วไปตอ่ ไปนี ้ข้อใดไม่ถูกต้อง? (A)ไม่ตอ้งทา อะไรทั ้งนั ้น รอใหเ้จา้หนา้ทีพ่ ยาบาลมากอ่ น (B)ใชน้ ้าหรอืไฮโดเจนเปอรอ์อกไซดร์าดทา ความสะอาดบาดแผล (C)หากมีเลือดออกมาก ต้องใช ้วิธีห้ามเลือด
363 หากในที ่ เกดิเหตมุ คี นหมดสติขอ้ใดตอ่ ไปนี ้ เป็นมาตรการแรกทีต่ อ้งปฏิบัติ? (A)ปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR ทันที (B)ตรวจดูลักษณะการรับรู ้และชีพจรของผู้ป่วยให้แน่ใจเสียก่อน (C)ใชเ้ครือ่ งชว่ ยกระตกุ หวัใจอตั โนมตั ิ(AED) ช่วยทันที
364 สา หรบั ผูป้่วยทีม่ อี าการสะลมึสะลอื ทางทีด่ คี วรจดั ใหอ้ยู่ในทา่ ใด? (A)ครึ ่งนั ่งครึ ่งนอน (B)นอนในทา่ พกั ฟื ้น (C)นอนราบ
365 หลงัปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR แล้ว เมือ่ การหายใจและหวัใจของผูป้่วยกลบั มาทา งาน จากสภาพอาการของผูป้่วยรายนี ้ในที ่ เกดิเหตุควรจดั ใหอ้ยใู่ นทา่ ใดถงึจะเหมาะสมทีส่ ดุ ? (A)นอนอยใู่ นทา่ พกั ฟื ้น (B)นอนราบ (C)ครึ ่งนั ่งครึ ่งนอน
366 หากผูป้่วยมแีผลไฟลวกรนุ แรงทีม่ พี ืน้ ทีก่ วา้ง ขอ้ใดตอ่ ไปนี ้ไม่ถกู ตอ้ง? (A)ตอ้งลา้งดว้ยน ้าจา นวนมากทนั ที (B)ไม่วา่ จะมสีิ ่งเกาะตดิ ทีบ่ าดแผลหรอืไม่ตอ้งถอดเสือ้ ผา้ออกทนั ที (C)ใหน้ ้าเกลอืทางหลอดเลอืดดา
367 สา หรบั ผูป้่วยทีห่ มดสตหิ รอืมอี าการสะลมึสะลอื ต้องช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายอย่างไร? (A)ใหผ้ ูป้่วยดืม่ เครือ่ งดืม่ รอ้นๆ (B)ใชน้ ้าอนุ่ (C)ห่มผ้าห่มให้
368 การปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR จะต้องประเมินผลทุกๆ 2 นาที ควรท าการตรวจสอบข้อใดก่อน? (A)การหายใจ (B)ชีพจร (C)การรู ้สึกตัว
369 วธิกี ารผายปอดที ่ได้ผลดีในผู้ใหญ่คือวิธีใด? (A)ปากต่อจมูก (B)การผายปอดแบบทางอ้อม (C)ปากต่อปาก
370 หลงัจากทีป่ ฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR แล้ว หา้มไม่ใหห้ ยดุ ขาดตอนกี ่วนิ าทขี ึน้ ไป? (A)10 วินาที(B)13 วินาที(C)15 วินาที
371 ในขณะทีป่ ฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR อยู่นั ้น ในระหวา่ งทีผ่ ายปอด หากไม่สามารถเป่าลมเข้าไปได้ควรท าอย่างไร? (A)เริม่ จดั เปิดทางเดนิ หายใจใหม่ แล้วค่อยเป่าลมเข้า 1 ครั ้ง (B)ละทิ ้งการปฐมพยาบาล (C)ท าการนวดบริเวณหน้าอกทันที
372 ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR คือ: “เรียก→เรียก→C→A→B→D” อักษร “ D” หมายถึง (A)กดหน้าผากยกคาง (B)ชอ็ ตดว้ยเครือ่ งกระตุกหวัใจอตั โนมตั ิ(AED) (C)เสียชีวิต
373 สาเหตทุ ีท่ า ใหย้ตุ กิ ารปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยฟื ้นคนื ชพี หรอื CPR คือข้อใด? (A)เจา้หนา้ทีพ่ ยาบาลเดนิ ทางมาถงึรบั หนา้ทีพ่ ยาบาลตอ่ (B)หวัใจของผูป้่วยกลบั มาเตน้ อกี ครั ้ง (C)ถูกทุกข้อ
374 เลือดสีแดงสดสีเลือดยังคงพุ่งออกมา: (A) เลือดออกในหลอดเลือดด า (B) การตกเลือดในหลอดเลือดขนาดเล็กและ (C) การเคลือ่ นไหว มีเลือดออกจากชีพจร
375 ในกรณีทีก่ ระดกู หกั ทะลผุ วิหนังทา ใหม้เีลอืดออกจา นวนมาก ควรทา สิ ่งใดกอ่ น (A)พยายามดันให้กระดูกกลบั เขา้ที ่ เดมิ (B)ห้ามเลือด (C)ส่งโรงพยาบาล
376 อปุ กรณห์ วัรถจกั รมองไปทีก่ ระจกมองหลงัและหนา้ทีข่ องมนั คอื (A) เพือ่ เพิม่ ความสมดลุ ของรถ (B) เพือ่ อา นวยความสะดวกในการดแู ลของผูข้ บั ขีแ่ ละ (C) เพือ่ ชว่ ยใหผ้ ูข้ บั ขี ่ เพิม่ การมองเห็นทั ้งสองดา้น
377 คันบังคับเบรกของรถจักรยานยนต์แบบสกู๊ตเตอร ์(ไม่มีเกียร ์) (A)ด้านขวามือเป็ นคันบังคับเบรกล้อหน้า ด้านซ ้ายมือเป็ นคันบังคับเบรกล้อหลัง (B)ด้านซ ้ายมือเป็ นคันบังคับเบรกล้อหน้า ด้านขวามือเป็ นคันบังคับเบรกล้อหลัง (C)คันบังคับเบรกด้านซ ้ายและด้านขวาใช ้บังคับเบรกล้อหน้าและล้อหลังในเวลาเดียวกัน
378 การเบรกรถติดต่อกันเป็ นเวลานานจะท าให้แผ่นผ้าเบรกร ้อนเกินไป ท าให้ประสิทธิภาพในการเบรก (A)เพิม่ ขึน้ (B)ลดลง (C)ไม่เปลีย่ นแปลง
379 ขณะทีส่ ตารท์เครือ่ งยนต์ตอ้งทา สิ ่งใดกอ่ น (A)เปิดไฟหน้ารถ (B)เปิดไฟสัญญาณอันตราย (C)บีบคันบังคับเบรก
380 กอ่ นทีห่ วัรถจกั รจะเขา้สโู่ คง้ (A) ไม่จ าเป็ นต้องชะลอตัวลง (B) ต้องชะลอตัวลงอย่างเหมาะสมและ (C) ต้องเร่งความเร็วอย่างเหมาะสม
381 รถทีจ่ อดทิ ้งไวน้ านๆ โดยไม่มีการใช ้งาน ทางทีด่ รีะยะเวลานานเทา่ ไรถงึสตารท์เครือ่ ง 1 ครั ้ง ครั ้งละ 3-5 นาทีเพือ่ รกั ษาใหเ้ครือ่ งยนตข์องรถอยใู่ นภาวะทีม่ กี ารตดิเครือ่ งทีด่ ที ีส่ ดุ (A)ทุกสามเดือน (B)ทุกสัปดาห์(C)ทุกเดือน
382 หลกั การแนะแนวความปลอดภยัในการขบั ขี ่ : (A)ความเรว็ของรถยิ ่งชา้ยิ ่งมคี วามปลอดภยั สงู (B)รกั ษาระยะห่างทีป่ ลอดภยั จากรถคนั ทีอ่ ยขู่ า้งหนา้ และคนั ทีอ่ ยู่ดา้นขา้ง (C)ขับตามรถคันหน้าไปติดๆ ท าให้มีโอกาสผิดพลาดน้อยกว่า
383 ในขณะทีข่ ี ่รถจกั รยานยนตค์วรรกั ษาระยะห่างทีป่ ลอดภยั จากรถคนั ขา้งๆ (A)0.5 เมตรขึน้ ไป (B)1 เมตรขึน้ ไป (C)เวน้ ระยะห่างทีส่ ามารถแซงรถคนั หนา้ไดต้ลอดเวลา
384 รถจกั รยานยนตท์ีข่ ีผ่ ่านรถยนตท์ีจ่ อดอยู่ขา้งทาง ตอ้งรกั ษาระยะห่างทีป่ ลอดภยั จากรถนั ้น (A)เวน้ ระยะห่างทีส่ ามารถเบรกหยดุ รถไดต้ลอดเวลา (B)1 เมตรขึน้ ไป (ประมาณ 1 ประตูรถ) (C)0.5 เมตรขึน้ ไป
385 ทา่ ในการขี ่รถจกั รยานยนตท์ีด่ เีป็นหลกั ประกนั ความปลอดภยัในการขบั ขีอ่ ยา่ งหนึ ่ง ดวงตาต้อง (A)มองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว (B)คอยระวงัดมู าตรวดั ความเรว็เพือ่ ป้องกนั ไม่ใหข้ ี ่รถเกนิ อตั ราทีก่ า หนด (C)คอยระวงัทั ้งสีท่ ศิ ทาง
386 ทา่ ในการขี ่รถจกั รยานยนตท์ีด่ เีป็นหลกั ประกนั ความปลอดภยัในการขบั ขีอ่ ยา่ งหนึ ่ง ฝ่าเท้าจะต้อง (A)ปล่อยขาลงตามธรรมชาติ(B)วางไวบ้นทีพ่ กั เทา้ (C)ปล่อยขาข้างหนึ ่งลงตามธรรมชาติอกี ขา้งหนึ ่งวางไวบ้นทีพ่ กั เทา้
387 อตั ราความเรว็ในการขบั ขีย่ ิ ่งมมี าก ระยะห่างสา หรบั ปฏกิ ริยิาโตต้ อบของผูข้ บั ขี ่ : (A)ยิ ่งมมี ากขึน้ (B)ยิ ่งสัน้ ลง (C)ไม่เปลีย่ นแปลง
388 ระยะห่างทีป่ ลอดภยัในการขบั ตามรถคนั หนา้อยา่ งนอ้ ยตอ้ง (A)มีมากกว่า (B)มีน้อยกว่า (C)เท่ากับ ระยะห่างในการจอดรถ
389 ระยะห่างในการขบั ตามรถคนั หนา้ที ่ เหมาะสมสามารถชว่ ยป้องกนั การเกดิ อบุ ตั เิหตไุ ด้เพราะ (A)มีแรงเสียดทาน (B)มีแรงฉุด (C)มเีวลาและพืน้ ที ่ เพยีงพอสา หรบั ปฏกิ ริยิาโตต้ อบ
390เมือ่ ขบั ขี ่รถผ่านทางแยกที ่ไม่มสี ญั ญาณไฟจราจร ควรท าอย่างไรถึงจะปลอดภัยกว่า: (A)มองขวาก่อน จากนั ้นคอ่ ยมองซา้ย แลว้มองขวาอกี ครั ้ง (B)มองซ ้ายก่อน จากนั ้นคอ่ ยมองขวา แลว้คอ่ ยมองซา้ยอกี ครั ้ง (C)มองทางไหนก่อนก็ไม่ต่างกัน
391 ร สคี วนั ไอเสยีของเครือ่ งยนตเ์บนซนิ ปกตเิป็นสี(A)สีด า (B)สีฟ้ าขาว (C)ไม่มีสี
392 ควนั ไอเสยีจากเครือ่ งยนตร์ถจกั รยานยนตเ์ป็นสดี า อาจเป็ นเพราะ (A)การเผาผลาญน ้ามนั เชือ้ เพลงิทีส่ มบูรณ์(B)การเผาผลาญน ้ามนั เชือ้ เพลงิที ่ไม่สมบูรณ์ (C)การเผาผลาญน ้ามนั เครือ่ ง
393 เมือ่ หวัเทยีนของรถจกั รยานยนตม์กี ารทา งานที ่ไม่ดีจะท าให้เกิดข้อใดได้ง่าย (A)เรง่ เครือ่ งแตไ่ ม่มแีรง สิน้ เปลอืงน ้ามนั (B)สตารท์เครือ่ งไดย้าก (C)ถูกทุกข้อ
394 การเบรกรถกะทันหันท าให้ล้อรถถูกล็อคตายได้ง่าย ระยะในการเบรกรถจะ (A)เพิม่ ขึน้ (B)สัน้ ลง (C)ไม่เปลีย่ นแปลง
395 รถจกั รยานยนตท์ีป่ ลอ่ ยไอเสยีออกมามกี า๊ซสา คญั ตวัใดทีจ่ ะทา ใหโ้ลกเกิดภาวะเรือนกระจก? (A)ก๊าซคาร ์บอนมอนอกไซด์(B)ก๊าซคาร ์บอนไดออกไซด์(C)ไอน ้า
396 เมือ่ รถจกั รยานยนตเ์ขา้เตมิ น ้ามนั ในปัม๊ น ้ามนั (A)สามารถโทรออกหรือรับโทรศัพท ์มือถือได้ (B)รบั โทรศพั ทม์อืถอืไดเ้ทา่ นั ้น ห้ามไม่ให้กดโทรออก (C)ห้ามไม่ให้กดโทรออกหรือรับโทรศัพท ์มือถือเด็ดขาด
397 เมือ่ ขี ่รถจกั รยานยนตเ์ขา้ปัม๊ น ้ามนั ในขณะทีก่ า ลงัรอเตมิ น ้ามนั (A)จา เป็นตอ้งดบั เครือ่ งยนตก์อ่ น (B)ไม่จา เป็นตอ้งดบั เครือ่ งยนต์(C)ถูกทุกข้อ
398 รถจกั รยานยนตเ์ขา้ไปในปัม๊ น ้ามนั เพือ่ รอเตมิ น ้ามนั (A) เครือ่ งยนตต์อ้งดบั (B) เครือ่ งยนตไม่ต้องดับ ์ (C) ทั ้งสองอยา่ งทา ได้
399 เมือ่ ทา การตรวจดนู ้ามนั เครือ่ งของรถจกั รยานยนต์ (A)ดบั เครือ่ งยนต์(B)จอดรถไวบ้นพืน้ ราบ (C)ถูกทุกข้อ
400 น ้ามนั เครือ่ งของรถจกั รยานยนต์นอกจากจะตอ้งตรวจสอบเป็นประจา ตามเวลาทีก่ า หนดแลว้ (A)ตอ้งเปลีย่ นถา่ ยน ้ามนั เครือ่ งตามเวลาทีก่ า หนด (B)ไม่จา เป็นตอ้งเปลีย่ นถา่ ย (C)ขึน้ อยู่กบั ยีห่ อ้ของน ้ามนั เครือ่ ง
申論題 (0)